ใครสมควรเป็นนายกของพวกเรา?

นายกสมควรลาออกหรือไม่

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

สั่งปรับข่าว เอ็นบีที ห้ามแสดงความเห็น
อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ส่งหนังสือถึงผอ.เอ็นบีที จี้ปรับข่าว-รายการ เน้นเป็นกลาง-เว้นละเมิดบุคคลที่ 3 หลังอนุพงษ์ เรียกรายงานสถานการณ์ ด้านฟรีทีวี ย้ำนโยบายเกาะติดทุกความมเคลื่อนไหว แต่ลดสัมภาษณ์ความเห็นหวั่นไม่เป็นกลางนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) เปิดเผยว่า คณะทำงานภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เป็นหัวหน้าคณะ ได้เรียกหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายสถานการณ์ชุมนุมไปพบ เพื่อขอความร่วมมือในการแก้ปัญหาทั้งนี้ กรมฯในฐานะสื่อของรัฐพร้อมร่วมมือ และได้ทำหนังสือไปยังนายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเอ็นบีที ให้ระมัดระวังการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยให้ยึดหลักความเป็นกลางและรอบด้าน รวมทั้ง ให้มอบนโยบายการนำเสนอรายการของผู้ร่วมผลิตให้มีความสุภาพ ไม่กระทบสิทธิส่วนบุคคล หรือพาดพิงบุคคลที่ 3 เพื่อให้สังคมเกิดความสมานฉันท์ ไม่แตกแยกทางความคิดด้านนายสุริยงค์ เปิดเผยว่าหลังจากประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เอ็นบีทีได้ปรับเปลี่ยนหน้าจอการรายงานข่าวจากสีแดง เป็นสีฟ้า เปลี่ยนชื่อรายการพิเศษที่ติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมจากรายการ “เกาะติดพันธมิตรยึดเมือง” เป็น “เกาะติดสถานการณ์ฉุกเฉิน” เพื่อปรับลดอารมณ์ผู้ชม และเน้นนโยบายนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เป็นกลางรอบด้าน แต่ยังคงเกาะติดทุกเหตการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด “จะมีการพูดคุยกับผู้ร่วมผลิตรายการทุกรายในเอ็นบีที รวมทั้งผู้ผลิตรายการความจริงวันนี้ด้วยว่า ให้ปรับประเด็นการนำเสนอ เน้นความเป็นกลาง ไม่พาดพิงบุคคลที่ 3 เพื่อให้สังคมเกิดความสามัคคี” นายสุริยงค์ กล่าวด้านนายศุทธิชัย บุนนาค ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท กล่าวว่า หลังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สถานีมีความระมัดระวังการนำเสนอข่าวสารมากขึ้น โดยให้สมดุลกับการนำเสนอข้อมูลทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน หลีกเลี่ยงประเด็นที่จะสร้างกระแสให้สังคมแตกแยก และลดพื้นที่การแสดงความคิดเห็นจากกลุ่มต่างอย่างฟุ่มเฟือย แต่ยังเกาะติดสถานการณ์ทุกความเคลื่อนไหวด้วยรายงานพิเศษทันทีตลอดวันนายเทพชัย หย่อง ผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ กล่าวว่า ทีวีไทย ไม่เห็นด้วยกับการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล และยังคงทำหน้าที่สื่อที่รายงานข่าวเป็นปกติ เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ข้อมูลรอบด้านจากทุกสถานการณ์ ทุกฝ่าย แต่รูปแบบการสนทนาเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากกลุ่มต่างๆ จะมุ่งเน้นประเด็นการหาทางออกให้กับสังคมร่วมกัน โดยยังมีรายการพิเศษตัดสลับกับรายการปกติพล.ท.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 กล่าวว่า การทำหน้าที่สื่อของช่อง 5 จะเป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ทบ. คือ จะอยู่เคียงข้างชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน นำเสนอความจริงรอบด้าน โดยผู้ประกาศข่าวจะไม่แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ช่อง5 จะเป็นทีวีเพื่อความมั่นคงรัฐ และประชาชนด้านนายสำราญ ฉัตรโท รองผู้จัดการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวว่า การนำเสนอข่าวในปัจจุบัน ต้องทำอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการยั่วยุต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และเสนอย่างรอบด้านที่สุด กรณีการสัมภาษณ์ความคิดเห็นจะยึดประเด็นทางออกของปัญหา เป็นหลักขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น: