ใครสมควรเป็นนายกของพวกเรา?

นายกสมควรลาออกหรือไม่

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

หารือ 3 ฝ่ายพายเรือในอ่าง



หารือ 3 ฝ่ายพายเรือในอ่าง [9 ก.ย. 51 - 04:06]
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรอง 1 อาคารรัฐสภา ตัวแทน 3 ฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานวิปรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ประชุมเพื่อรายงานผลการเจรจาระหว่างทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯ โดยก่อนการหารือ นายประสพสุขให้สัมภาษณ์ว่า มารายงานผลการเจรจาให้ที่ประชุมรับทราบ ขณะนี้ยังถือว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ยังไม่ถือว่าล้มเหลว โดยการเจรจาจะต้องใช้เวลาและพยายามต่อไป จนถึงขณะนี้ยังถือว่าการเจรจาเป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามภายหลังการหารือทั้งหมดปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าต้องรอหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเที่ยงวันเดียวกันก่อน
ข้อเสนอให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของวุฒิสภาได้แจกแถลงการณ์ รายงานความก้าวหน้า ในการประสานงานของ นายประสพสุข มีใจความว่า เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจากับ ผบ.ทบ. และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตนจึงได้ตั้งคณะทำงานประสานขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยผลการเจรจากับผู้บัญชาการทหารบก ตนได้พบกับ ผบ.ทบ.โดยตรงจากการประสานงานของ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช และ พล.ร.อ.ณรงค์ ยุทธวงศ์ ส.ว. ซึ่ง ผบ.ทบ.แสดงความห่วงใยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ทุกฝ่ายถอยกันคนละก้าว และสนับสนุนที่ฝ่ายรัฐสภาแสดงเจตนาดีที่จะพยายามช่วยกันแก้ปัญหาของชาติและให้กำลังใจให้ความพยายามในครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ ในส่วนของทหาร ผบ.ทบ.ยืนยันหนักแน่นว่าทหารจะไม่ ใช้กำลังในการสลายการชุมนุม และทหารจะไม่ทำการปฏิวัติรัฐประหารอย่างเด็ดขาด เพราะเห็นว่าวิธีทางรัฐสภาน่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดของบ้านเมืองในปัจจุบัน
แนะนายกฯลาออกหรือยุบสภา
แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุอีกว่า ในส่วนการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯได้ประสานไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ยังมิได้มีการพบปะเจรจากัน เพราะจังหวะเวลาไม่เอื้ออำนวยในขณะนี้ เข้าใจดีว่าจะต้องให้เวลา ขอเรียนว่ายังรออยู่และเปิดประตูที่จะเป็นคนกลางในการเจรจาต่อไป อย่างไร ก็ตาม จากการที่คณะทำงานฯได้นำข้อมูล ข้อคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆมาสนทนาอภิปรายร่วมกัน เห็นว่าแนวทางที่น่าจะเป็นทางออกในขณะนี้คือทุกฝ่ายควรลดทิฐิ และเสียสละเพื่อประเทศชาติ โดยได้เสนอแนวปฏิบัติดังนี้คือ 1. นายกฯควรประกาศลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ที่ทุกฝ่ายรับได้ ทำหน้าที่ชั่วคราวในระยะสั้นก่อนคืนอำนาจให้ประชาชนต่อไป หรือนายกฯประกาศยุบสภาฯเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งผู้แทนราษฎรเข้ามาใหม่ในทันที 2. พันธมิตรฯต้องเคารพและปฏิบัติอยู่ภายใต้กฎหมายและยุติการชุมนุม 3. สำหรับแนวทางเรื่องการทำประชามติที่นายกฯเสนอนั้น คณะทำงานเห็นว่าไม่น่าจะปฏิบัติได้ในตอนนี้
แกนนำทุกพรรคจับเข่าหาทางออก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ตัวแทนของพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรค พร้อมตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ได้ เดินทางมาร่วมประชุมกับ 3 แกนนำฝ่ายนิติบัญญัติ อาทิ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย นายมั่น พัธโนทัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“เชษฐา” เดาใจนายกฯไม่ถูก
ด้าน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวก่อนประชุมว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายคงต้องหาทางออกจนได้ ต่อข้อถามถึงข้อเสนอให้รัฐบาลยุบสภา พล.อ.เชษฐาตอบว่า ระบอบประชาธิปไตยมีอยู่แค่ 2 รูปแบบ ไม่ลาออกก็ยุบสภา เมื่อถามว่า มีข้อเสนออะไรต่อที่ประชุมหรือไม่ พล.อ.เชษฐาตอบว่า อยากให้ทุกฝ่ายประเมินสถานการณ์ปัจจุบันให้ถูกต้องตรงกันเสียก่อน เมื่อถามถึงข้อเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ มีการคุยถึงเรื่องนี้ คงเป็นเพียงแนวทางหนึ่งเท่านั้น ต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อน ทั้งนี้ทายใจนายกฯไม่ออกว่าจะเลือกรูปแบบใด แต่เชื่อว่าเมื่อพรรคการเมืองมานั่งคุยกันแล้วน่าจะช่วยแก้สถานการณ์ต่างๆได้
ชาติไทยยังอุบเงียบไม่แสดงท่าที
ขณะที่นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวก่อนการประชุมว่า มารับฟังแนวทางการแก้ปัญหา หัวหน้าพรรคชาติไทยบอกแล้วว่าต้องถอยกันคนละก้าว ตนเป็นตัวแทนพรรคชาติไทยมารับฟังว่า ขณะนี้มีใครถอยกันบ้าง ต่อข้อถามเรื่องความเป็นไปได้ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล นายนิกรตอบว่า ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเราเห็นว่าการเจรจายังเป็นทางออกที่ดี เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยจะเสียสละด้วยการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายนิกรตอบว่านั่นคือการเจรจาหรือรอลุ้นศาล รธน.ก่อนคุยกันใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม นายประสพสุข แจ้งให้ทุกฝ่ายทราบถึงข้อเสนอต่อทางออกในสถานการณ์ดังกล่าว คือนายกฯลาออกหรือยุบสภา ขณะที่พันธมิตรฯต้องยุติการชุมนุม ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ระบุว่า ทางออกของปัญหานี้คือจะต้องให้มีการทำประชามติโดยเร็วที่สุด เพื่อทราบถึงความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ โดยที่ประชุมส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับการแสดงออกของนายกฯล่าสุดที่มีความอ่อนโยนและประนีประนอมมากขึ้นว่าจะเป็นตัวช่วยให้การเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯง่ายขึ้น โดยนายกฯควรจะแสดงท่าทีที่ประนีประนอมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง และเห็นว่าหากพันธมิตรฯมีข้อเสนอให้นายกฯลาออก กลุ่มพันธมิตรฯจะต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนก่อนว่าจะยุติการชุมนุม ทั้งนี้ จะรอผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีผลออกมาเช่นไร และจะนัดประชุมกันอีกครั้งทันทีเมื่อรับทราบผล
มอบ “หมอเลี้ยบ” แจงผลนายกฯ
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้แถลงร่วมกัน โดยนายชัยกล่าวว่า รัฐสภาในฐานะตัวแทนของประชาชนได้ปรึกษากันได้ข้อสรุปได้ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ไปเรียนนายกฯ ถึงข้อห่วงใยและข้อมูลต่างๆที่ได้มีการพูดคุยกัน เมื่อได้คำตอบอย่างไรให้มาแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ โดยส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจว่าประธานวุฒิสภาจะเป็นคนกลางที่ประสานประโยชน์ของทุกฝ่ายได้อยู่ แต่การจะให้ทุกอย่างจบภายในวันเดียวคงเป็นไปไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมันหมักหมมพอสมควร เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกฯปฏิบัติขัดรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรต่อไป นายชัยตอบว่า ต้องดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หากยังไม่มีกระบวนการยุบสภา เมื่อถามว่า เหตุใดจึงต้องให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชนไปแจ้งนายกฯ นายชัยตอบว่า ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯว่าจะตัดสินใจอย่างไร เราให้ นพ.สุรพงษ์ไปเรียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและเรื่องที่จะต้องแก้ไข
6 พรรคร่วมจับมือแน่นไม่ถอนตัว
เมื่อถามว่า มีข้อเสนอให้นายกฯยุบสภาหรือลาออกใช่หรือไม่ นายชัยตอบว่า แล้วแต่เลขาธิการพรรคพลัง ประชาชนจะไปปรึกษากับนายกฯ เราไม่ได้ไปบอกให้ต้องลาออกหรือยุบสภา เพราะนายกฯลาออกปัญหาคงไม่จบ และขณะนี้การทำประชามติก็ยังไม่สามารถทำได้ แต่ปัญหาของประชาชนทั้งประเทศเป็นเรื่องใหญ่กว่าทุกเรื่อง หากทุกฝ่ายยังประจันหน้ากันอยู่ เศรษฐกิจของประเทศมีแต่ทรุดลงทุกวัน ต่างประเทศก็ไม่เชื่อมั่น ความสมานฉันท์ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า มีข้อเสนออะไรไปยังกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายชัยตอบว่า ไม่กล้าบังอาจ เมื่อถามว่า มีข้อเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวหรือไม่ นายชัยตอบว่า ได้สอบถาม 6 พรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เขาร่วมมือผนึกกันแน่น ไม่มีพรรคใดถอนตัว ขณะนี้เราขอร้องให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว เมื่อถามว่า มีการเสนอชื่อนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นนายกฯคนต่อไปหรือไม่ นายชัยตอบว่า ยังไม่ทราบ อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลว่าจะมีมติอย่างไร เมื่อถามว่า การประชุมร่วมกันของฝ่ายนิติบัญญัติและพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ถือว่าล้มเหลวหรือไม่ นายชัยตอบว่า ไม่ล้มเหลว บรรยากาศของบ้านเมืองจะเริ่มดีขึ้น เพราะลูกเห็บตกแล้ว และทันทีที่ต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าว ก็ควรจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แล้ว
“อภิสิทธิ์” รับคุยไม่คืบหน้า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการหารือว่า ยอมรับกันว่าไม่มีความคืบหน้าเท่าที่อยากจะเห็น เพราะยังมีความยากลำบากที่จะนำ 2 ฝ่ายมาเจรจากัน ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวมีความเห็นที่หลากหลายและมองสถานการณ์ในหลายแง่มุม แต่ในส่วนของตนไม่ได้มีการเสนออะไรเพิ่มเติม แต่ในที่สุด การดำเนินการโดยระบบรัฐสภาต้องขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งก็คือพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรค โดยพรรคเหล่านี้ได้รับความเห็นต่างๆในวันนี้ไปแจ้งกับฝ่ายรัฐบาล เมื่อถามถึงการที่นายชัยระบุว่ากระบวนการแก้ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัวนายกฯ จะหมายความถึงการยุบสภาหรือการที่นายกฯลาออกใช่หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ตอบว่า อำนาจตรงนี้อยู่ที่นายกฯ ไม่มีใครสามารถไปบังคับหรือตัดสินแทนนายกฯได้ ทั้งนี้มีความพยายามจะเจรจากันอีกครั้ง เราไม่ได้ปฏิเสธ เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องไปดูว่าจะเจรจาในกรอบใด
“เสธ.-เสนาะ” มั่นใจสถานการณ์ดีขึ้น
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวภายหลังการหารือว่า ที่ประชุมเพียงแต่ได้แสดงความคิดเห็นว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร โดยแต่ละพรรคได้เสนอความเห็นไป โดยมองว่าสถานการณ์อาจจะดีขึ้น แต่ถึงขนาดจะให้กลุ่มพันธมิตรฯสลายการชุมนุมเลยคงยาก เมื่อถามว่ากระแสข่าวปล่อยออกมาว่ามีการพูดกันถึงการเปลี่ยนขั้ว พล.ต.สนั่นปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดกันถึงเรื่องเปลี่ยนขั้ว และไม่มีการพูดถึงการจะชูนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ใครจะมาพูดอย่างนี้
ส่วนนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า บรรยากาศการหารือกันเป็นไปด้วยดี บ้านเมืองต้องมีทางออกไม่มีทางออกไม่ได้ โดยขณะนี้คณะผู้ประสานงานต้องไปเจรจากัน ในที่ประชุมเราก็มีเงื่อนไขให้เยอะ ทุกฝ่ายจะต้องมีทางออก เมื่อถามว่าการยุบสภาฯยังถือเป็นทางออกแก้วิกฤติของชาติได้อยู่หรือไม่ นายเสนาะตอบว่าไม่มี ยืนยันว่าทางออกจะต้องเป็นไปในทางดี เป็นไปอย่างสร้างสรรค์
“สุวิทย์” ห้าวไล่บี้นายกฯลาออก
ขณะที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า การแก้ปัญหาของประเทศชาติต้องเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย เราต้องพูดกันในหลักการเราไม่ได้พูดกันเรื่องตัวบุคคลหรือข้อเรียกร้องของใครคนใดคนหนึ่ง และเราเห็นแล้วว่านายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหรือแคนาดาก็ลาออกไปแล้ว และขบวนการตรงนี้ก็เป็นกระบวนการตามปกติในระบอบประชาธิปไตย สถานการณ์ การแก้ไขปัญหาผู้ที่เป็นนายกฯถ้าอยู่ไม่ได้ก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาทำแทนโดยการยุบสภาฯให้ประชาชนได้ตัดสินใจกันใหม่ เมื่อถามย้ำว่าการที่บอกว่าถ้านายกฯอยู่ไม่ได้ก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นทำแทนเป็นเงื่อนไขที่พรรคร่วมจะให้นายกฯลาออกไปใช่หรือไม่ นายสุวิทย์ตอบว่า ไม่ใช่ สื่อมวลชนอย่าถามนำอย่างนั้นมันไม่ดี บ้านเมืองมันแตกแยกพออยู่แล้ว เป็นความเห็นของตนและจุดยืนของตน ในระบอบประชาธิปไตยเขาต้องตัดสินใจอย่างนี้
ยันไม่กดดันนายกฯยุบสภา-ลาออก
ทางด้านนายมั่น พัธโนทัย รองนายกฯ และ รมว. ไอซีที ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ประชุมวิตกกันว่าจะทำอย่างไรมันไม่มีทางออก เพราะรู้กันอยู่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้ถอย และทางรัฐบาลไม่ยอมถอย ในวงหารือจึงเห็นพ้องว่าให้ไปช่วยกันหาทางออกว่ามีทางใดบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องการให้นายกฯลาออกหรือยุบสภา แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าให้ท่าทีของรัฐบาลลดความแข็งกร้าวลง เมื่อถามว่า ได้คุยกันถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำตัดสินคดีชิมไปบ่นไปของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 ก.ย. ที่อาจทำให้เงื่อนไขเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นายมั่นตอบว่า พูดกันนิดหน่อย โดยเป็นคนขึ้นเองว่าวันที่ 9 ก.ย.จะมีการตัดสินตอนบ่าย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สภาฯจะคุยกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีใครไปกดดันให้นายกฯลาออก หรือยุบสภาฯ
นายประสพโชติ ปรีชาวรพิชญ์ 5131601387 section 02

ไม่มีความคิดเห็น: