พันธมิตรฯยังไม่รับทางออกลงประชามติ
แกนนำพันธมิตรฯ ลั่น สมัคร ต้องลาออกก่อน ย้ำ5แกนนำต้องหารือเรื่องทางออกด้วยการลงประชามติ ยันไม่เคยเรียกร้องรัฐบาลแห่งชาติ ไม่เกี่ยวปชป. ไม่ต้องการเข้าไปมีอำนาจเอง ที่ห้องสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 2 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงถึงท่าทีของพันธมิตรฯ หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ในช่วงเช้า โดยนายพิภพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีโกหกพูดบิดเบือนข้อมูล ให้คลุมเครือ นำประเด็นเล็กมาขยาย โดยใช้วิธีการพูดแบบโต้วาทีเพื่อให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยเฉพาะการลาออกของนายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และไม่ยอมพูดถึงการที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ไปอยู่เบื้องหลัง นปช. นายสมัคร คิดเอาเองว่า จะมีคนคล้อยตามสิ่งที่ตนพูด แต่ปรากฏว่าพันธมิตรฯ กลับได้แนวร่วมมากขึ้น "การแถลงข่าวของนายกฯ เป็นการทดสอบว่าประชาชนส่วนมากยังสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ เป็นการออกเสียงประชามติกลายๆ แต่จากการประเมินเชื่อว่าจะมีคนเห็นด้วยกับพันธมิตรฯ มากขึ้น” นายพิภพ กล่าวผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงข้อเรียกร้องของพันธมิตรคืออะไร รัฐบาลแห่งชาติ หรือให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ไม่เคยเรียกร้องรัฐบาลแห่งชาติ และไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่เห็นว่าหากมีพรรคการเมืองใดขึ้นมาตามระบบก็น่าจะเข้าไปปฏิรูปการเมือง ทั้งนี้ แม้นายสมัครจะลาออก แกนนำก็จะพิจารณาว่าจะชุมนุมต่อไปหรือไม่ เพราะยังมีตัวแปรอื่นๆ อีกมาก เรายังไม่รู้ว่านายกฯคนใหม่เป็นใคร และการเมืองใหม่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้แกนนำพันธมิตรไม่ได้ต้องการเข้าไปมีอำนาจเสียเอง แต่อยากเห็นนักการเมืองมีความซื่อสัตย์ ยืนยันว่า พันธมิตรไม่เคยพูดว่าจะตอกฝาโลงพรรคพลังประชาชน ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของพรรคพลังประชาชนที่ให้ทำประชามติ นายพิภพ กล่าวว่า ใครจะทำอะไรก็ทำไป แกนนำยังไม่มีการหารือกัน แต่การทำประชามตินั้นต้องถามว่าตั้งประเด็นไว้อย่างไร และใครเป็นผู้จัดทำ ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ไม่หยุดงานตัดน้ำตัดไฟตามที่แถลงไว้ก่อนหน้า นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการหยุดงาน สหภาพเป็นคนแถลงข่าว แกนนำทั้ง 5 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาตรการต่างๆ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสหภาพ พันธมิตรฯ ไม่เคยพูด แค่เห็นด้วยในหลักการ เท่าที่เห็นพี่น้องรัฐวิสาหกิจหลายแห่งก็ทำไปบางส่วน เช่น รถเมล์ หรือรถไฟ แต่อาจจะยังไม่เต็มร้อยเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า ความพอใจสูงสุดของพันธมิตรฯ อยู่ตรงไหนในเมื่อนายสมัคร ไม่ลาออกก็ยังไม่ยุติการชุมนุม กลายเป็นว่าข้อเรียกร้องไม่สิ้นสุดหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่าการชุมนุมต้องมีจุดสิ้นสุด เพราะเราไม่ใช่อันธพาล แต่มาถามแบบนี้ไม่ได้ แต่ถึงนายสมัครออก แกนนำทั้ง 5 คนก็ต้องหารือกันก่อน ไม่ใช่อยู่ๆ จะให้หยุดทันที ต้องถามประชาชนก่อนว่าจะหยุดหรือไม่ แต่ตอนนี้นายสมัครก็ยังไม่ออก ก็ยังขยับอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่าหากรัฐบาลออกไปแล้ว พร้อมเจรจาเพื่อยุติปัญหาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าถึงเวลานั้น ก็มาหารือกันก่อนว่าจะเจรจาหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการแถลงข่าวบรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไขที่จะทำให้การชุมนุมสิ้นสุด แต่แกนนำทั้ง 2 ตอบเพียงว่า ต้องหารือกับแกนนำก่อน จนเกิดการโต้เถียงกันนานกว่า 30 นาที ทำให้นายสมศักดิ์ถึงกันหัวเสีย โต้ตอบกับผู้สื่อข่าวอย่างดุเดือด ชิงยุติการแถลงข่าวและเดินออกจากห้องไป ขณะที่นายพิภพ พยายามควบคุมอารมณ์และอธิบายทุกคำถามอย่างใจเย็น แต่คำตอบไม่มีความชัดเจน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายพิภพ ได้พยายามทำความเข้าใจกับผู้สื่อข่าวหลังการแถลงข่าวอีกนานเกือบ 1 ชั่วโมง โดยตอนหนึ่งได้เปิดเผยว่าหากรัฐบาลออก เงื่อนไขในการชุมนุมก็จะลดลง และเป็นเรื่องยากที่พันธมิตรฯ จะจัดชุมนุมต่อไป แต่จะพูดล่วงหน้าไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้นฝ่ายการเมืองจะนำมาเป็นเกมต่อรอง ส่วนเรื่องการเมืองใหม่ยังเป็นแค่ตุ๊กตา ไม่มีรายละเอียด กว่าจะใช้ได้ผลจริง อย่างต่ำก็อีก 10 ปีขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
ใครสมควรเป็นนายกของพวกเรา?
นายกสมควรลาออกหรือไม่
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น