ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง“ทิชา ณ นคร” คดีบิ๊กขี้หลี
วันนี้( 10 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก กระทรวงยุติธรรม เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา โจทก์ฟ้องว่าระหว่างวันที่ 6-20 มิ.ย.46 จำเลยได้หมิ่นประมาทใส่ความโจทก์โดยให้สัมภาษณ์และลงบทความ เรื่องจดหมายจากองค์กรผู้หญิงถึงนายกรัฐมนตรี อันเป็นการใส่ความโจทก์ร่วมให้ได้รับความเสียหาย จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์และโจทก์ร่วมยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมหารือแล้วเห็นว่า โจทก์ร่วมไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ารักษาความปลอดภัยในการประชุม ครม.ที่ จ.ภูเก็ต และ จ.อุบลราชธานี ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.46 หนังสือพิมพ์มติชน ได้ลงข่าวกรณีที่โจทก์ร่วมมีพฤติการณ์ส่อไปในทางชู้สาวกับนักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โดยหนังสือพิมพ์มติชนได้ลงบทสัมภาษณ์ของจำเลยในวันที่ 6 มิ.ย.46 และลงบทความของจำเลยในวันที่ 20 มิ.ย.46 เห็นว่าทั้งบทสัมภาษณ์และบทความของจำเลย ระบุพฤติการณ์ของโจทก์ร่วมที่ส่อเจตนาในทางชู้สาวกับนักข่าวผู้หญิง โดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องภาระหน้าที่แม้แต่น้อย แม้ในบทความจะไม่ได้ระบุชื่อตัวโจทก์ร่วมโดยตรง แต่ช่วงเวลานั้น ประชาชนต่างทราบว่า หมายถึงโจทก์ร่วม ซึ่งจำเลยเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาสังคม จึงพยายามชี้ให้เห็นปัญหา เพื่อร่วมกันแก้ไข โดยแสดงความเห็นในมุมของสตรีโดยสุจริต ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม อุทธรณ์โจทก์และโจทก์ร่วม ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ภายหลัง นางทิชา เปิดเผยว่า จากคำพิพากษาของศาลแสดงถึงมาตรฐานการใช้ชีวิตของผู้หญิงสมัยใหม่ ว่าเราสามารถยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อสังคมได้ โดยมีกฎหมายคุ้มครอง ถือว่าคุ้มค่ามากกับการมีคดีความขึ้นศาลครั้งนี้ทำให้เห็นว่าผู้ไม่มีอำนาจไม่ใช่จะเป็นผู้เสียเปรียบเสมอไป ถือว่าเป็นชัยชนะที่น่าสนใจ โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องกลับ พล.ต.อ.สันต์แล้ว ด้าน นาย นคร ชมพูชาติ รองประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ในฐานะทนายจำเลย กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายมีหลักว่าหากเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม แม้อ้างชื่อหรือไม่จะอ้างชื่อ กฎหมายก็เอื้อประโยชน์ไม่เอาผิดได้ ซึ่งคดีนี้จะเป็นผลทำให้ผู้ที่มีอำนาจไม่ว่าจะในระบบราชการ หรือบริษัทเอกชน มีความยับยั้งไม่ให้กระทำความผิดทางเพศต่อผู้ที่ด้อยกว่าได้.
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=176414&NewsType=1&Template=1
นายประสพโชติ ปรีชาวรพิชญ์
5131601387 sec.02
ใครสมควรเป็นนายกของพวกเรา?
นายกสมควรลาออกหรือไม่
วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น